การประพฤติผิดจริยธรรมการวิจัย

 

  • การสร้างทฤษฎี เรื่องราว และ/หรือข้อมูลเท็จ (fabrication) หมายถึง การสร้างทฤษฎี เรื่องราว ข้อมูล ผลการวิจัย การบันทึก และรายงานข้อมูลการวิจัย หรือผลการวิจัย ซึ่งเป็นการแต่งขึ้นมาเอง โดยไม่มีการวิจัยจริง
  • การปลอมแปลงหรือบิดเบือนข้อมูล (falsification) หมายถึง การปกปิดบิดเบือนข้อมูลหรือผลงานวิจัย เพื่อให้ตรงตามสมมติฐานหรือผลการศึกษาที่นักวิจัยต้องการ ซึ่งจะนำไปสู่ข้อสรุปที่ไม่ถูกต้องและผิดไปจากความเป็นจริง โดยเป็นการตัดทอน เพิ่มเติม ดัดแปลง แก้ไขข้อมูลการวิจัย หรือการดำเนินการใด ๆ ในกระบวนการวิจัยและการรายงานผลการศึกษาที่ไม่สอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริง
  • การลักลอกข้อมูล (plagiarism) หมายถึง การนำผลงานวิจัย คำพูด ความคิด หรือสิ่งต่าง ๆ ของผู้อื่น ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนใช้เสมือนเป็นของตนเอง หรือทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นของตนเอง
  • การลักลอกข้อมูลของตนเอง (self-plagiarism) หมายถึง การนำข้อมูลการวิจัยหรือผลงานวิจัยที่เหมือนเดิมหรือเกือบเหมือนเดิมของตนเองกลับมาใช้ซ้ำ โดยไม่มีการอ้างอิงถึงผลงานวิจัยเดิมของตนเอง และตั้งใจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผลงานชิ้นใหม่

 

การประพฤติผิดจริยธรรมการวิจัยในลักษณะอื่น ๆ

การประพฤติผิดจริยธรรมการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำวิจัย เช่น

  • การไม่ปฏิบัติตามหลักการจริยธรรมที่เป็นที่ยอมรับในการทำวิจัย
  • การออกแบบการวิจัยที่ไม่เหมาะสม หรือการไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน การดำเนินงานที่เป็นที่ยอมรับ หรือไม่ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและอันตราย ที่อาจเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สัตว์ หรือสิ่งแวดล้อม
  • การขาดการจัดการหรือการเก็บรักษาข้อมูลที่ดี หรือการนำข้อมูลไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
  • การละเมิดลิขสิทธิ์ หรือการนำข้อมูลของผู้อื่นมาใช้ประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล

การประพฤติผิดจริยธรรมการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเขียนผลงานวิจัยและการตีพิมพ์ผลงานวิจัย เช่น

  • การมีชื่อในผลงานวิชาการที่ไม่เป็นความจริง
  • การเพิ่มจำนวนการตีพิมพ์บทความวิชาการ โดยการแบ่งผลงานวิจัยที่ เป็นเรื่องเดียวกันออกเป็นหลายส่วนและส่งไปตีพิมพ์ยังวารสารต่าง ๆ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร (salami publication)
  • การส่งบทความวิชาการฉบับเดียวกันเพื่อขอรับการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารมากกว่าหนึ่งวารสาร (simultaneous submission)
  • การว่าจ้างเขียนผลงานวิจัย และเขียนวิทยานิพนธ์ (ghost authorship หรือ anonymous authorship)

การประพฤติผิดจริยธรรมการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาตรวจสอบผลงานวิจัย (peer review)

  • การไม่เปิดเผยหรือดำเนินการกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น
  • การใช้ผู้ประเมินบทความปลอม (fake reviewers) เพื่อหลีกเลี่ยงขั้นตอนการพิจารณาตรวจสอบผลงานวิจัย ซึ่งจะนำไปสู่การตีพิมพ์บทความที่ไม่มีคุณภาพ

การประพฤติผิดจริยธรรมการวิจัยอื่น ๆ เช่น

  • การแสดงข้อมูลความเชี่ยวชาญ คุณสมบัติ และประสบการณ์ของนักวิจัยที่ไม่เป็นความจริง
  • การใช้ความอาวุโสในทางที่ผิด
  • การเพิกเฉยต่อการประพฤติผิดจริยธรรมการวิจัยที่เกิดขึ้น
  • การกลั่นแกล้งที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง โดยใช้ข้อกล่าวหาเรื่องการประพฤติผิดจริยธรรมการวิจัยเป็นเครื่องมือ
  • การว่าจ้างเขียนผลงานวิจัย และเขียนวิทยานิพนธ์ (ghost authorship หรือ anonymous authorship)

 

ข้อมูล : หนังสือบทเรียนและกรณีศึกษาด้านจริยธรรมการวิจัย
โดย คณะผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมการวิจัยของประเทศ
(Thailand Research Integrity Network: TH-RIN)
และฝ่ายพัฒนาคุณภาพและจริยธรรมการวิจัย (QRI)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://ri.nrct.go.th/pdf/lessonsandcase_ri.pdf